.
KPT650D วิธีการตั้งค่าพิกัดและการสอบเทียบ

KPT650D | วิธีการตั้งค่าพิกัดและการสอบเทียบน้ำหนัก
เครื่องชั่งและตัวควบคุมสัญญาณน้ำหนัก (Weighing Indicator) รุ่น KPT650D เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกับโหลดเซลล์ (Load Cell) เพื่อแปลงสัญญาณไฟฟ้าเป็นค่าน้ำหนักที่แม่นยำ เหมาะสำหรับงานควบคุมในอุตสาหกรรม เช่น เครื่องชั่งถังผสม (Hopper), เครื่องชั่งแพลตฟอร์ม (Weighing Platform) และระบบบรรจุอัตโนมัติ
เพื่อให้การชั่งน้ำหนักมีความถูกต้อง จำเป็นต้อง ตั้งค่าพิกัด (Capacity Setting) และ สอบเทียบ (Calibration) อย่างถูกวิธี ขั้นตอนเหล่านี้จะกำหนดค่าการอ่านสูงสุด, ตำแหน่งทศนิยม, ค่าการแบ่ง (Division) รวมถึงการปรับศูนย์ (Zero Calibration) และการปรับสเกล (Span Calibration) โดยตรงกับน้ำหนักมาตรฐาน
ขั้นตอนการตั้งค่าพิกัด (Capacity Setting)
การตั้งค่าพิกัดทำในโหมด Function Setting (FUNC) โดยกด MODE + G/N ค้าง 2 วินาที เพื่อเข้าสู่โหมดการตั้งค่า แล้วปรับตามรหัสฟังก์ชันที่เกี่ยวข้อง
-
ตั้งค่าทศนิยม (F4 – Multiplier / Decimal Point)
-
เลือกตำแหน่งทศนิยม เช่น 0.1, 0.01, 0.001
-
ตัวอย่าง: หากต้องการแสดง 12.34 กก. ให้เลือกค่า 0.01
-
-
ตั้งค่าการแบ่ง (F5 – Division)
-
เลือกค่าการแบ่งได้ 1, 2 หรือ 5
-
เช่น ถ้าเลือก 1 หมายถึงเครื่องจะแสดงผลทีละ 1 กรัม
-
-
ตั้งค่าความจุสูงสุด (F6 – Maximum Capacity)
-
เลือกช่วงพิกัด 500 – 100,000
-
เช่น หากต้องการพิกัด 60,000 กก. ให้เลือกค่า “19”
-
หมายเหตุ: หากการตั้งค่าไม่สัมพันธ์กัน เช่น Capacity ไม่สอดคล้องกับ Division/Multiplier เครื่องจะแจ้ง Error 1
ขั้นตอนการสอบเทียบ (Calibration)
วิธีที่ 1: ใช้น้ำหนักมาตรฐาน (Calibration by Standard Weight)
-
กด MODE + TARE ค้าง 2 วินาที → จอแสดง “CAL1”
-
Zero Calibration
-
ตรวจสอบว่าแท่นชั่งว่างเปล่า
-
กด ZERO + MODE เพื่อบันทึกค่า 0
-
-
Span Calibration
-
วางน้ำหนักมาตรฐานที่เท่ากับพิกัดชั่ง (อย่างน้อย 100 divisions)
-
ใช้ปุ่ม ZERO และ TARE ปรับค่าให้ตรงกับค่าน้ำหนักมาตรฐาน
-
กด MODE เพื่อยืนยัน
-
วิธีที่ 2: ป้อนค่าด้วยข้อมูลระบบ (Calibration by Data Input)
-
เข้าสู่ “CAL2” โดยกด MODE + TARE → กด TARE อีกครั้ง
-
ป้อนค่า Zero Voltage และ Span Voltage (mV/V) ของ Load Cell
-
ป้อนค่าพิกัดชั่ง เช่น 60,000
-
กด MODE เพื่อบันทึก
ตัวอย่างการตั้งค่าอย่างละเอียด
-
ความจุสูงสุด (Capacity): 150 kg
-
ความละเอียดการแสดงผล (Division/Step width): 10 g = 0.01 kg
-
หน่วย: kg
โครงสร้างการตั้งค่าบน PT650D ใช้ “Multiplier/Decimal point (F4)” ร่วมกับ “Division (F5)” เพื่อได้ Step width (ความต่างของค่าที่แสดงสองช่องติดกัน) และกำหนด Maximum capacity (F6) เป็น “ตัวเลขไม่รวมจุดทศนิยม” ของพิกัดชั่ง
ก่อนเริ่ม (สำคัญมาก)
-
ปลดล็อกโหมดตั้งค่า/คาลิเบรต
ค่าดีฟอลต์ IN1 = FUNC จะล็อกโหมดตั้งข้อมูล/คาลิเบรตไว้ ต้อง ชอร์ต IN1 กับ COM เพื่อเปิดให้ตั้งค่าและคาลิเบรตได้ -
เข้าโหมดฟังก์ชัน (FUNC)
กดค้าง MODE + G/N ~2 วินาที หน้าจอขึ้น “FUNC” เพื่อเข้าสู่การตั้งค่า -
สภาพแวดล้อมและการต่อสาย
-
หลีกเลี่ยงแดด/ลม/สั่นสะเทือน, กราวด์ที่จุดของอินดิเคเตอร์อย่างเหมาะสม
-
สายโหลดเซลล์/สัญญาณแอนะล็อกให้แยกห่างจากสายไฟ AC เพื่อลดสัญญาณรบกวน
-
-
ตรวจสอบความไวระบบ (คร่าวๆ)
เครื่องรองรับ Output sensitivity 0.5 µV/D ถึง 200 µV/D และต้องได้ ≥ 0.5 µV/D-
ตัวอย่างโหลดเซลล์ 2 mV/V, จ่าย 10 V → ช่วงสัญญาณ ≈ 20 mV
-
สำหรับ 150 kg @ 0.01 kg/ขีด: ~1.33 µV/D (> 0.5 µV/D) เพียงพอ
-
ตั้งค่าพิกัด (ในโหมด FUNC)
ใช้ปุ่ม ZERO เลื่อนหลัก/รายการ, ปุ่ม TARE เปลี่ยนค่า, ปุ่ม MODE ยืนยัน/ไปขั้นต่อไป
-
F4 – Multiplier/Decimal point → เลือก 0.01
ค่าที่ให้เลือก: 10 / 1 / 0.1 / 0.01 / 0.001 / 0.0001 → สำหรับ 10 g ให้เลือก 0.01 (ตำแหน่งทศนิยม 2 ตำแหน่ง) -
F5 – Division → เลือก 1
ตัวเลือก: 1 / 2 / 5 → ต้องการ Step width = 0.01 kg ให้ใช้ Division = 1 (เพราะ Step = Division × Multiplier = 1 × 0.01) -
F6 – Maximum capacity → เลือก 15000
รายการค่ามีตั้งแต่ 500 … 100000 (ไม่รวมจุดทศนิยม) โดย 15000 ตรงกับ 150.00 kg (รายการหมายเลข 13 ในตาราง F6) -
(แนะนำ) F9 – Unit → 0 = kg
-
(ตัวเลือกเพื่อความเสถียร)
-
F10 – Zero return range: 1–50% ของพิกัด เลือก 1–2% เพื่อกันกด ZERO ง่ายเกินไป
-
F11 – Digital filter: 0–512 แนะนำ 8 หรือ 16 สำหรับแท่นชั่งทั่วไป
-
F12 – Display update rate: 1/4/8/16/20 ครั้ง/วินาที แนะนำ 4 times/sec เพื่อสมดุลความนิ่งกับความไว
-
หากตั้งค่า Multiplier/Division/Capacity ไม่สัมพันธ์กัน เครื่องจะขึ้น ERROR 1 ต้องกลับมาตรวจ F4–F6 ใหม่
คาลิเบรตด้วยน้ำหนักมาตรฐาน (CAL1)
เข้าคาลิเบรต: MODE + TARE ~2 วินาที → หน้าจอขึ้น “CAL1”
หมายเหตุ: น้ำหนักมาตรฐานขั้นต่ำที่ใช้สแปนได้คือ ≥ 100 divisions → สำหรับ 10 g ขั้นต่ำคือ 1.0 kg (แต่แนะนำ 100–150 kg หรือใกล้พิกัดที่สุด)
ขั้นตอน
-
Zero Calibration (ศูนย์)
-
เอาแท่นให้ว่าง ไม่มีโหลด
-
ทำตามหน้าจอ → กด ZERO (รับค่า 0) แล้วกด MODE เพื่อยืนยัน
-
-
Span Calibration (สเกล)
-
วางน้ำหนักมาตรฐาน (เช่น 150.00 kg หรือค่าที่ทราบแน่นอน เช่น 100.00 kg)
-
ใช้ปุ่ม ZERO / TARE ปรับค่าที่หน้าจอให้ตรงกับน้ำหนักมาตรฐาน
-
กด MODE เพื่อยืนยัน จบคาลิเบรต
-
Error Code ของ KPT650D
-
ERROR 1 : การตั้งค่า Multiplier, Division หรือ Maximum Capacity ไม่ถูกต้อง
➝ เช่น กำหนด Capacity เกินช่วงที่เครื่องรองรับ (500 – 100,000) -
ERROR 2 : การต่อสายระหว่าง Load Cell และ Indicator ไม่ถูกต้อง
➝ ค่าแรงดันที่ Zero สูงกว่าค่าแรงดันที่ Span -
ERROR 3 : ค่าแรงดันอินพุตต่ำเกินไป
➝ Dead weight ของแท่นชั่งเบาเกินไป
วิธีแก้: ใส่ Resistor ฟิล์มโลหะ 1% ค่า 50KΩ – 500KΩ ระหว่าง EX+ และ SG+ -
ERROR 4 : ค่าแรงดันอินพุตสูงเกินไป
➝ Dead weight ของแท่นชั่งหนักเกินไป
วิธีแก้: ใส่ Resistor ฟิล์มโลหะ 1% ค่า 50KΩ – 500KΩ ระหว่าง EX+ และ SG- -
ERROR 5 : ความไวของ Load Cell (Input Sensitivity) อยู่นอกช่วงที่รองรับ
➝ ต้องตรวจสอบสเปค Load Cell ให้รองรับ ≥ 0.5 µV/D -
ERROR 6 : Output Voltage ของ Load Cell ที่พิกัดชั่งสูงเกินไป
-
ERROR 7 : ค่า Zero Offset สูงกว่าช่วง Zero Return Range ที่ตั้งไว้
ตรวจรับงานหลังคาลิเบรต
-
ชั่ง 10.00 kg, 50.00 kg, 100.00 kg, 150.00 kg ตรวจว่าคลาดเคลื่อนไม่เกินเกณฑ์งาน
-
เขย่าหรือเคาะเบาๆ ดูความนิ่งของตัวเลข ถ้าไวเกิน/ไม่นิ่ง ปรับ F11 (filter) เพิ่มขึ้น หรือปรับ F12 (update rate) ลดลง
-
ตั้ง Zero track (F1/F2) และ Motion detection (F3) ให้เหมาะกับหน้างาน หากต้องการให้เครื่องช่วยเก็บศูนย์อัตโนมัติและกันการอ่านระหว่างมีการเคลื่อนไหว
สรุป “ค่าที่ต้องตั้ง” สำหรับ 150 kg × 10 g
-
F4 (Multiplier/Decimal point): 0.01
-
F5 (Division): 1
-
F6 (Max capacity): 15000 → ได้ 150.00 kg
-
F9 (Unit): kg
-
(แนะนำ) F10: 1–2% | F11: 8–16 | F12: 4 times/sec
การตั้งค่าพิกัดและการสอบเทียบใน KPT650D เป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อความแม่นยำในการชั่ง การทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องทั้ง การกำหนด Capacity, Division, Decimal Point และการสอบเทียบทั้งแบบ Zero และ Span จะทำให้เครื่องทำงานได้เสถียร ลดความคลาดเคลื่อน และเหมาะสมต่อการใช้งานในอุตสาหกรรมทุกประเภท
P.Phattanakan